1 เครื่องทำกาแฟไซฟอน 2 แก้ว Hario Technica Syphon Coffee Maker (2-Cup / 240ml)

เครื่องทำกาแฟไซฟอน 2 แก้ว Hario Technica Syphon Coffee Maker (2-Cup / 240ml)

เครื่องทำกาแฟไซฟอน (หรือเรียกกันอีกชื่อว่า vacuum pot) นั้นเป็นวิธีการชงที่ถูกคิดค้นตั้งแต่ยุค 1840 และถูกปรับปรุงมาตลอด

เนื่องจากไซฟอนเป็นวิธีที่ชงกาแฟด้วยอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง  บาริสต้าจึงต้องพยายามเลี่ยง overextractionโดยการปรับปัจจัยการชงเช่นอุณหภูมิชง, เวลาชง, ระดับคั่วของเมล็ดกาแฟที่เลือกใช้ และค่าบด

ถ้าชงออกมาดี  กาแฟไซฟอนจะให้รสชาติที่เข้มข้นของกาแฟ และบอดี้ที่เต็มจากการแช่กาแฟ (immersion) ในอุณหภูมิชงที่ควบคุมไม่ให้สูงจนเกินไป  แต่ในเวลาเดียวกันจะได้รสชาติที่คลีนจากการกรองผ่านผ้า

• เซ็ทนี้จะมาพร้อม: เครื่องทำกาแฟไซฟอน รุ่น Technica (สำหรับทำกาแฟได้ 1-2 แก้ว) , ฐาน syphon stand, ตะเกียง alcohol (พร้อมฝาครอบเพื่อดับไฟ), ช้อนตักกาแฟพลาสติก
• Dimensions: W16.0 × D9.5 × H32.0 cm

วิธีการใช้งาน

1. Brew ratio ที่จะใช้ในการชงจะอยู่ที่ 1:15 (หรือสำหรับไซฟอน 2-Cup อาจจะใช้กาแฟ 15g : น้ำ 225g)
2. Grind size: ระดับบดกลางค่อนหยาบ (ระหว่าง French Press กับ V60)
3. อุ่นผ้ากรองโดยการแช่น้ำร้อนประมาณ 5 นาที (ถ้าใช้ผ้าเป็นครั้งแรก  ควรทำความสะอาดโดยการล้างและต้มน้ำก่อน)  ก่อนประกอบเข้าไปในโถบนและดึงโซ่ให้กระชับและเกี่ยวตะขอตรงโซ่กับท่อแก้ว
4. ใส่น้ำอุ่น/ร้อนลงไปในโถล่าง (สามารถใส่น้ำอุณหภูมิห้องได้  แต่การใส่น้ำอุ่นจะช่วยย่นเวลาชงเนื่องจากอุณหภูมิน้ำจะเดือดเร็วขึ้น–โดยเฉพาะกับตะเกียง alcohol ที่มาพร้อมเซ็ทซึ่งจะใช้เวลาต้มน้ำนานกว่าวิธีอื่นๆพอสมควร  เมื่อเปรียบเทียบกับเตาแก๊ส butane ที่สามารถปรับความแรงของไฟ หรือ Hario Beam Heater ที่ควบคุมอุณหภูมิชงได้ เป็นต้น)
5. ประกอบโถบนเข้าไปบนโถล่าง (โดยให้โซ่จุ่มลงมาในน้ำ) แต่ไม่จำเป็นต้องให้เข้าที่เพื่อจะได้ยังไม่ให้เกิดสูญญากาศที่ดูดน้ำร้อนขึ้นไปบนโถบน
6. วางที่ต้ม (เช่น เตาแก๊ส butane ขนาดเล็ก, ตะเกียง alcohol, หรือ Hario Beam Heater) เข้าไปข้างใต้โถล่างเพื่อทำการต้มน้ำ
7. เมื่อน้ำเริ่มเดือด  ค่อยปรับโถบนให้เข้าที่ — สูญญากาศที่เกิดขึ้นในโถบน  ประกอบกับแรงดันน้ำที่ต้มในโถล่างจะดูดน้ำร้อนขึ้นไปบนโถบน (ปกติแล้วน้ำจะไม่ถูกดูดขึ้นไปบนโถบนจนหมด  แต่จะเหลือในโถล่างนิดหน่อย — จึงไม่ต้องห่วงน้ำที่เหลือ)
8. เมื่อปริมาณน้ำบนโถบนเริ่มนิ่งแล้ว  ให้ลดไฟลงเพื่อควบคุมอุณหภูมิชง (ในกรณีที่ใช้ตะเกียง alcohol หรือเตาแก๊ส butane — แต่ถ้าเป็น Beam Heater จะสามารถปรับอุณหภูมิตามต้องการได้เลย)
9. เสียบ thermometer เพื่อวัดอุณหภูมิชงและใช้ไม้พายคนน้ำเพื่อปรับอุณหภูมิน้ำ — เมื่อเริ่มได้อุณหภูมิชงที่ประมาณ 90°C (หรืออุณหภูมิชงอื่นที่ต้องการ) แล้วให้ใส่ผงกาแฟเข้าไปในโถบนและใช้ไม้พายคนให้ผงกาแฟเปียกทั่วถึง (ได้ even saturation)
10. ปล่อยกาแฟให้สกัดในโถบนประมาณ 45 วินาที (หรือนานกว่าขึ้นอยู่กับรสชาติที่ชอบ)
11. หลังจากแช่กาแฟจนเสร็จแล้วค่อยปิดไฟและย้ายโถล่างออกมา — เมื่อโถล่างเริ่มเย็น  น้ำกาแฟจะกลับลงมาในโถล่าง
12. SERVING TIP: เนื่องจากอุณหภูมิชงค่อนข้างสูง  แนะนำให้เทน้ำกาแฟออกไปในเหยือกเสิร์ฟเพื่อลดอุณหภูมิของกาแฟก่อนเสิร์ฟ — รสชาติที่ซับซ้อนจะออกมาเมื่ออุณหภูมิกาแฟเริ่มเย็นลง
13. TIP: หลังเทน้ำกาแฟออกจากโถล่างแล้ว  แนะนำให้ใส่น้ำเปล่าลงไปเพื่อลดอุณหภูมิของโถล่าง  และเพื่อป้องกันคราบกาแฟติดโถล่างด้วย

การต้มน้ำโดยใช้เตา/ตะเกียง VS.  Hario Beam Heater ให้ผลแตกต่างกันอย่างไร?

• Beam Heater จะให้บาริสต้าสามารถตั้งอุณหภูมิชงของกาแฟในแต่ละขั้นตอนของการชงไซฟอนได้แน่นอนกว่า (เช่นอุณหภูมิขณะต้มน้ำ และอุณหภูมิขณที่แช่ผงกาแฟลงไป) — ทำให้รสชาติของกาแฟออกมานิ่งกว่า

เปรียบเทียบไซส์ Hario Technica Syphon

SaveSaveSaveSave

SaveSaveSaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSave

SaveSaveSaveSave

SaveSave

SaveSave